What happens when people eat contaminated food?
เมษายน 30, 2024
-เมื่อผู้คนรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อน ปัญหาสุขภาพต่างๆ อาจเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของสารกัมมันตภาพรังสีที่ปนเปื้อนและระยะเวลาที่ได้รับสาร ต่อไปนี้คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้:-1. การเจ็บป่วยจากรังสีเฉียบพลัน: หากได้รับสารกัมมันตภาพรังสีในปริมาณที่สูงมาก อาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยจากรังสีเฉียบพลันได้ ในภาวะนี้เหยื่ออาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ มีไข้ และอาการอื่นๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายต่ออวัยวะและอาจถึงแก่ชีวิตได้ในกรณีที่รุนแรง-2. การสัมผัสรังสีจากภายใน: สารกัมมันตภาพรังสี เช่น ซีเซียม-137 ไอโอดีน-131 เป็นต้น สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางอาหารและแผ่รังสีในร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ไอโซโทปรังสีเหล่านี้อาจมีความเข้มข้นอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น ซีเซียมในกล้ามเนื้อ และไอโอดีนในต่อมไทรอยด์-3. ผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว: การได้รับสารกัมมันตรังสีในปริมาณต่ำเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรังได้ เช่น มะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ ปัญหาระบบสืบพันธุ์ และปัญหาพัฒนาการ ผลกระทบเหล่านี้อาจไม่รู้สึกได้ในทันที แต่จะค่อยๆ เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป-4. ผลกระทบทางพันธุกรรม: สารกัมมันตภาพรังสีอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อ DNA ของสารพันธุกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่สามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นอนาคต เพิ่มความเสี่ยงของความพิการแต่กำเนิดและโรคทางพันธุกรรม-5. ส่งผลต่อเด็กและทารกในครรภ์: เด็กและทารกในครรภ์มีความไวต่อรังสีมากขึ้นเนื่องจากร่างกายยังอยู่ระหว่างการพัฒนา เป็นผลให้การสัมผัสกับสารกัมมันตภาพรังสีสามารถนำไปสู่ปัญหาพัฒนาการ ความบกพร่องทางสติปัญญา และการชะลอการเติบโต-สิ่งสำคัญคือต้องซื้ออาหารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หลีกเลี่ยงการซื้อและรับประทานอาหารที่อาจปนเปื้อน และปฏิบัติตามคำแนะนำและคำแนะนำของรัฐบาลหรือหน่วยงานด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ในเวลาเดียวกัน คุณสามารถซื้อเครื่องตรวจจับรังสีนิวเคลียร์เพื่อตรวจจับระดับกัมมันตภาพรังสีในอาหารได้ เครื่องมือเหล่านี้สามารถตรวจจับและหาปริมาณอนุภาคกัมมันตรังสีประเภทต่างๆ ได้ เช่น อนุภาคอัลฟ่า อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา เครื่องตรวจจับรังสี MR-50 มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และสามารถตรวจสอบรังสีในสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ ทั้งโกดัง หลุมฝังกลบ อาหาร เครื่องสำอาง กองขยะ ท่าเรือ สถานที่ศุลกากร สถานพยาบาล โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และกิจกรรมสาธารณะ . สามารถป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ดีขึ้น-